จักรพรรดิเทียนอู่ เซียวอี้ ควงดาบท่ามกลางความวุ่นวายแห่งกลียุค และสร้างอาณาจักรไว้ที่แดนเหนือ จากนั้นอาณาจักรก็สืบทอดมายาวนานกว่าสองร้อยปี จนถึงราชวงศ์หมิงเต๋อ แผ่นดินรุ่งเรืองแข็งแกร่งผู้คนบูชาทั่วสารทิศ จักรพรรดิหมิงเต๋อมีโอรสอยู่หนึ่งพระองค์ นามว่า เซียวฉู่เหอ เป็นผู้มีปรีชาสามารถที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่หก เดิมเป็นผู้ที่เหมาะกับตำแหน่งองค์รัชทายาทมากที่สุด ทว่าเมื่อสี่ปีก่อน อ๋องหลางหยา น้องชายของจักรพรรดิหมิงเต๋อ ต้องสงสัยว่าก่อกบฏได้รับโทษประหารชีวิต เซียวฉู่เหอ ได้เข้าไปโต้แย้งในศาล ทำให้จักรพรรดิทรงพิโรธอย่างมากจึงถูกลดขั้นเป็นสามัญชนและเนรเทศไปยังชิงโจว ซึ่งยังไม่มีผู้ใดมานั่งบนบัลลังก์รัชทายาท องค์ชายที่อยู่ในวังก็ต่อสู้กันอย่างไม่รามือ ทำให้ราชวงศ์เกิดความสั่นคลอน ใต้หล้าไร้ซึ่งความสงบสุข ส่วน เซียวฉู่เหอ ที่ถูกเนรเทศ กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไร้เบาะแสมานานหลายปี จนกระทั้งฤดูใบไม้ร่วงปีที่ 20 แห่งรัชศกหมิงเต๋อ พระอาจารย์วั่งโยวแห่งวัดหานสุ่ยได้มรณะภาพไปในฌาน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องเล่าโลงศพทองคำที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งยุทธภพ "เซียวเซ่อ" เจ้าของโรงเตี๊ยมเสวี่ยลั่ว หลังจากที่ไม่มีลูกค้าเข้าพักมาเป็นเวลานานหลายปี ในที่สุดก็ได้มีนักผจญภัยเข้ามา ซึ่งก็คือ จอมยุทธ "เหลยอู๋เจี๋ย" และยังมีโจรเข้ามาก่อความวุ่นวายภายในร้าน ทำให้ "เหลยอู๋เจี๋ย" ไม่อาจนิ่งดูดาย ยื่นมือเข้าไปช่วย จนสามารถขับไล่โจรออกไปได้สำเร็จ แต่โรงเตี๊ยมกับพังเละเทะ เป็นเหตุให้คนขี้งกอย่าง "เซียวเซ่อ" ต้องเก็บเงินที่ "เหลยอู๋เจี๋ย" แต่เขาเองก็ไม่มีเงินมากพอมี่จะสามารถจ่ายคืนให้ได้ แต่ด้วยความที่เขามาจากตระกูลใหญ่ ถ้าเข้าไปที่เมืองเสวี่ยเยว่ก็จะมีเงินสามารถคืนให้กับ "เซียวเซ่อได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองร่วมออกเดินทางไปยังเมืองเสวี่ยเยว่ ระหว่างทางได้พบเข้ากับ "ถังเหลียน" ซึ่งอยู่ระหว่างการขนโลงศพทองคำที่กำลังเป็นที่เล่าลืออยู่ในตอนนี้ อีกทั้ง "ถังเหลียน" ยังเป็นศิษย์พี่ของ "เหลยอู๋เจี๋ย" ทำให้พวกเขาร่วมเดินทาง และเข้าไปพัวพันกับเรื่องราววุ่นวายในยุทธภพ